ข้าวญี่ปุ่น🌱โคชิฮิคาริ📌ถูกที่สุด10บ.📌ข้าวญี่ปุ่นโคชิฮิคา50เมล็ด🌿ปลูกง่าย🌿ให้ผลผลิตดี🌱ทานอร่อย
ข้าวญี่ปุ่นโคชิฮิคาริ สำหรับปลูก 50-200 เมล็ด (ข้าวที่แพงที่สุดในโลก) Koshihikari Japanese Rice
🌱ปลูกได้ทุกสภาพอากาศ
🌱ปลูกเหมือนข้าวไทย
🌱ให้ผลผลิตสูง
📌การปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์หรือกระถางปลอดสารพิษ
ใน 1 ปีปลูกได้ 3-4 ครั้ง เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่น้อย คิดคำนวณง่ายๆ ว่า ปลูกข้าว 30 บ่อ ปีละ 3 ครั้ง ก็จะมีข้าวบริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปีสำหรับ 1 คน
ข้อดีของการปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์ คือ ใช้น้ำน้อย ควบคุมวัชพืชได้ง่าย ให้ปุ๋ยได้สะดวกและเก็บเกี่ยวผลผลิตง่าย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด หรือคนเมืองที่อยากจะลองปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษไว้รับประทานเอง แต่หากไม่มีบ่อซีเมนต์ก็สามารถปรับเปลี่ยนใช้ภาชนะอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม เช่น กระถาง กะละมังพลาสติกที่สามารถขังน้ำได้ มีความกว้างและลึกพอให้ข้าวเจริญเติบโต การปลูกข้าวแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
🌱เตรียมต้นกล้า
1.เตรียมกระถางสำหรับเพาะกล้า โดยใส่ดินเหนียวลงในกระถางสูงประมาณครึ่งหนึ่งของกระถาง ใส่น้ำและนวดดินให้เละนิ่ม เกลี่ยดินให้เรียบให้มีน้ำหล่อเพียงเล็กน้อย
2.หว่านเมล็ดข้าวลงบนดินที่เตรียมไว้ กดเบาๆ ให้เมล็ดจมดิน วางในบริเวณที่มีแสงแดดจัด
3.หมั่นเติมน้ำให้ชื้นอยู่เสมอ ทิ้งไว้ 1 เดือนจึงถอนต้นกล้ามาเตรียมปักดำ
🌱การปลูกข้าว
1.เตรียมบ่อหรือกระถางซีเมนต์ความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรขึ้นไป สำหรับบ่อซีเมนต์ทั่วไปจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร ให้เทปูนปิดก้นบ่อให้สนิท วางเรียงให้เป็นระเบียบ ในบริเวณที่ได้รับแสงตลอดทั้งวัน เว้นช่องว่างเป็นทางเดินประมาณ 60 เซนติเมตร เพื่อให้เข้าไปดูแลจัดการได้ง่าย
2.เตรียมดินปลูกลงในกระถาง โดยนำใบไม้ผุรองก้นประมาณ 1 ใน 5 ของความสูงภาชนะ โรยปุ๋ยคอกแล้วใส่ดินลงไปให้มีความสูงโดยรวมประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงบ่อซีเมนต์ หมักทิ้งไว้ 1 เดือน
3.เมื่อครบ 1 เดือน ใส่น้ำลงในกระถางปลูกที่เตรียมไว้ให้พอท่วมดิน ถอนต้นกล้าข้าวที่ได้มาปักดำใน กระถางปลูก บ่อหนึ่งวงจะปักดำได้ประมาณ 10 กอ ให้ปักดำห่างจากขอบบ่อและกออื่นระยะประมาณหนึ่งฝ่ามือ หรือ 10-15 เซนติเมตร (ข้าวหนึ่งกอที่จะปักดำควรมีต้นข้าว 3-4 ต้น ปักดำลึกประมาณ 3-5 เซนติเมตร)
4.หลังจากปักดำไปแล้ว 7-10 วัน ต้นข้าวจะเริ่มตั้งตัว ให้หมั่นเติมน้ำพอให้ดินชุ่มและท่วมดินเล็กน้อย และใส่ปุ๋ยคอกลงไปบ่อละ 1 กิโลกรัม โดยใส่ 15 วันครั้ง
5.ประมาณ 60-70 วัน ต้นข้าวจะเริ่มแทงช่อดอกและติดเมล็ด ช่วงที่ข้าวตั้งท้องให้งดน้ำ 7 วัน หลังจากนั้นให้น้ำต่อจนถึงช่วงก่อนเกี่ยวข้าว 7 วัน จึงงดให้น้ำอีกครั้ง รอจนเมล็ดแก่เป็นสีเหลืองจึงเก็บเกี่ยวได้
6.ในการเกี่ยวข้าว ให้เก็บรวงข้าวโดยเด็ดชุดแรกตรงปล้องแรกของรวง ข้าว 1 ต้นสามารถเก็บได้ 3 รอบ โดยให้เก็บผลผลิตเมื่อข้าวเริ่มมีการตั้งท้องในปล้องที่สองของต้นข้าว หลังจากเก็บเกี่ยวรุ่นที่สามแล้ว ให้กดต้นข้าวฝังลงไปในดินในบ่อ เหมือนการไถกลบตอซังข้าวและปล่อยน้ำเข้าบ่อให้ท่วมพอดี เป็นการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเตรียมบ่อลงปลูกรอบต่อไป ผลผลิตใน 1 บ่อ/ รอบ จะได้ปริมาณข้าวเปลือกบ่อละ 1 กิโลกรัม
7.หลังการเก็บเกี่ยว ควรลดความชื้นของรวงข้าวก่อน เพราะระหว่างการเก็บนั้นเมล็ดข้าวจะมีการหายใจ ทำให้เกิดความร้อนซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราเข้าทำลาย ดังนั้นควรลดความชื้นในเมล็ดก่อนเก็บ โดยวางรวงหรือผึ่งในที่ร่ม มีการระบายอากาศที่ดี ไม่ควรตากบนพื้นซีเมนต์หรือพื้นถนนโดยตรง เพราะเมล็ดอาจได้รับความร้อนสูงเกินไป ควรปูพื้นด้วยผ้าใบหรือเสื่อสานด้วยไม้ไผ่ ระยะเวลาการตากข้าวประมาณ 23 แดด และไม่ควรตากนานเกินไป