ชุดคู่สุดคุ้ม ขวดใหญ่ไซส์ 1 ลิตร เอฟอช+แกรมม่าทู // เอฟอช+เอมม่า // เอฟอช+ซีโฟ
🍀เอฟอช+แกรมม่าทู
☘️เอฟอช+ซีโฟ
☘️เอฟอช+เอมม่า
เอฟอช คืออะไร
สารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเปียกและแทรกซึมใบ
มีส่วนประกอบของสารซิลิโคนชนิดพิเศษ
ซึ่งนอกจากทำหน้าที่ช่วยแพร่การกระจายและยึดติดใบได้ดีแล้ว
ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการเปิดปากใบ
และนำพาสารกำจัดศัตรูพืชแทรกซึมเข้ารูใบของพืช
เพิ่มการดูดซึมทำให้ละอองยาสัมผัสกับแมลงศัตรูพืช
หรือบริเวณที่เกิดการระบาดของศัตรูพืชได้มากขึ้น
และยังช่วยให้สารกำจัดศัตรูพืช ฮอร์โมน และปุ๋ยน้ำต่างๆ
แทรกซึมเข้าในเนื้อเยื่อพืชในระยะเวลา 1-2 นาที หลังการฉีดพ่น
ลดการสูญเสียสารออกฤทธิ์จากแสงแดด ลม และฝน
สามารถใช้ได้ดีทั้งระบบการพ่นน้ำน้อยและการพ่นน้ำมาก
สามารถใช้ร่วมเคมีภัณฑ์และอินทรีย์สารได้ทุกชนิด
สารสำคัญ : Organossilicone fluid / Polyalkylene Glycol blend 100%
> เสริมประสิทธิภาพการเปียกและการแทรกซึมใบ
> ซิลิโคนพิเศษช่วยเปิดปากใบพืช ให้พืชได้กินอาหารทางใบได้อย่างเต็มที่
> แทรกซึมเร็วแต่ไม่ทำลายขนหรือนวลของพืช
> ช่วยประหยัด ปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน วิตามินต่างๆได้อย่างดี
> ลดการชะล้างของแดด ลม ฝน
> ใช้ได้กับเคมีภัณฑ์และอินทรีย์สารได้ทุกชนิด
> ใช้ได้ดีทั้งระบบพ่นน้ำน้อยและพ่นน้ำมาก
> ไม่ตกค้าง ย่อยสลายแทบจะทันทีเมื่อเข้าสู่ใบพืชแล้ว
> ไม่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์
> ซิลิโคนพิเศษ นำเข้าจากเยอรมัน
ใบรับแจ้งเลขที่ รส.1685 / 2561 (กรมวิชาการเกษตร)
แกรมม่าทู
- กรดอะมิโน 18 ชนิด
- แคลเซียม (Ca) ............... 2.50% แมกนีเซียม (Mg) .................. 0.75%
ปกติแล้วพืชจะสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นขึ้นมาจากองค์ประกอบพื้นฐาน
ซึ่งคือ คาร์บอน ออกซิเจน ไฮโดรเจน และไนโตรเจน
เริ่มแรกนั้นพืชจะนำคาร์บอนและออกซิเจนที่ได้จากอากาศมาผสมกับไฮโดรเจนที่ได้จากน้ำในดิน
สิ่งที่ได้เรียกว่า Carbon Hydrate กระบวนการนี้เรียกว่าการสังเคราะห์ด้วยแสง
จากนั้น Carbon Hydrate จะถูกนำไปผสมกับไนโตรเจนที่พืชดูดซึมมาจากดิน
สิ่งที่ได้ก็คือ “กรดอะมิโน ชนิด L”
การที่พืชได้รับกรดอะมิโนในปริมาณที่พอเหมาะเป็นที่รู้กันว่าจะนำไปสู่ปริมาณ
และคุณภาพของผลผลิตที่มากขึ้นปริมาณการให้กรดอะมิโนแก่พืชด้วยการฉีดพ่นทางใบนั้น
ต้องดูที่ชนิดของพืช และระยะการเจริญเติบโตของพืชเป็นหลัก
พืชจะดูดซึมกรดอะมิโนเข้าไปผ่านทางปากใบ
ส่วนปริมาณที่สามารถรับได้จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
และอุณหภูมิเป็นสำคัญ ในบางสภาวะ พืชขาดสารอาหารบางชนิด
ไม่สามารถผลิตกรดอะมิโนได้ตามความต้องการ
ทำให้พืชไม่สมบูรณ์ หรือ ออกดอก ออกผลได้ไม่มาก
หรือผลผลิตไม่สมบูรณ์ บิดเบี้ยว ผลเล็ก
จึงจำเป็นต้องใช้กรดอะมิโนสำเร็จรูป เพื่อให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
ตามความต้องการ ไม่ต้องผ่านขบวนการทางชีวเคมีที่พืชต้องสร้างขึ้นเอง
เสมือนหนึ่งเป็นอาหารเสริมบำรุงพืช
เพื่อช่วยเพิ่มและให้ผลผลิตมีคุณภาพที่สมบูรณ์
แคลเซียม (Ca)
ความสำคัญและประโยชน์ของแคลเซียม
1. พืชใช้แคลเซียมในการแบ่งเซลล์ที่ส่วนของยอดและปลายรากทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี เมื่อส่วนปลายรากแข็งแรงสามารถดูดน้ำและอาหารได้เต็มที่
2. แคลเซียมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของผนังเซลล์ และทำหน้าที่เชื่อมให้ผนังเซลล์ข้างเคียงประสานกัน ผนังเซลล์จึงมีความแข็งแรง เซลล์จำนวนมากเชื่อมติดกันกลายเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะของพืช ทำให้ลำต้นพืชแข็งแรงและช่วยรักษาโครงสร้างของผนังเซลล์
3. แคลเซียมมีบทบาทควบคุมให้รากพืชเจริญเติบโตมีทิศทางลงสู่ดินตอบสนองต่อความถ่วง (gravity) ของโลก และส่งเสริมการทำหน้าที่ของออกซินด้านการเจริญเติบโตของเซลล์
4. แคลเซียมควบคุมการดูดน้ำของเซลล์พืช โดยปรับความเข้มข้นขององค์ประกอบในแวคิวโอลของเซลล์ให้พอเหมาะ เอื้อต่อการดูดน้ำเข้ามาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้แคลเซียมยังมีบทบาททางอ้อมในการควบคุมการเปิดและปิดปากใบ
5. แคลเซียมไอออนเป็นตัวนำรหัสที่สองในการส่งข่าวสารให้ระบบส่วนกลางทราบภาวะของสิ่งแวดล้อมภายนอกซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่น อุณหภูมิ แสง ความแห้งแล้ง ความเค็มและการเข้าทำลายของเชื้อโรค รวมทั้งกระตุ้นให้พืชป้องกันอันตรายจากสิ่งเหล่านั้นอย่างเหมาะสม นอกจากนั้นแคลเซียมยังช่วยเพิ่มความต้านโรคพืชและซ่อมแซมบาดแผลที่เกิดขึ้น
6. แคลเซียมมีบทบาทต่อการเกิดดอกและผล แคลเซียมส่งเสริมให้มีการปฏิสนธิในดอกหลังจากการถ่ายเรณูโดยเหนี่ยวนำให้หลอดเรณูยืดตัว เพื่อส่งเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ไปจนถึงรังไข่ ทำให้เกิดการปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ในออวุล จึงมีการพัฒนาผลและเมล็ด
7. แคลเซียมช่วยเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และน้ำตาล มาสะสมที่ผล ระหว่างการเจริญเติบโตของผล ทำให้ผลเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และลดปัญหาการหลุดร่วงของผลได้
8. แคลเซียมกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสในเมล็ดซึ่งทำหน้าที่ย่อยแป้งอันเป็นอาหารสะสมในเอนโดสเปิร์มให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็ก เพื่อนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานในการงอกของเมล็ดและเป็นโครงคาร์บอนสำหรับสังเคราะห์สารอินทรีย์ต่างๆ
แมกนีเซียม (Mg)
ความสำคัญของธาตุแมกนีเซียม
1. เป็นองค์ประกอบของคลอโรฟีลล์ ส่วนสีเขียวในใบพืช
2. ช่วยในการเคลื่อนย้ายอาหารในพืชและเป็นตัวนำพาฟอสฟอรัสในการดูดซึมจาก รากไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช
3. เป็นตัวเร่ง และเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ของพืชหลายชนิด
4. เคลื่อนย้ายได้ดีในพืช
5. มีบทบาทที่สำคัญในการ สังเคราะห์แสง
6. เพิ่มการใช้ธาตุเหล็กในพืช
7. มีอิทธิพลเกี่ยวกับให้ความสม่ำเสมอของการสุก การแก่ที่เร็วขึ้นอย่างสม่ำเสมอของผลไม้
ประโยชน์ของแกรมม่าทู
ช่วยให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มมากขึ้น
ช่วยในการสร้างพลังงานดูดซึมสารอาหารต่างๆไปใช้ได้มากขึ้น
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นพืช รวมทั้งช่วยขยายขนาดของผล
และป้องกันไม่ให้ผล เถา หัว หรือผักแตก ทำให้เนื้อแน่น เพิ่มน้ำหนัก
รสชาดดี ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากลำต้น ใบ มาสู่ผลและเมล็ด
สามารถเก็บสะสมอาหาร ผล หัว เถามีการพัฒนาเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
ลดปัญหาการหลุดร่วงของผล เพิ่มคุณภาพของผลผลิตได้เป็นอย่างดี